สรรพสามิตเผยผลปราบปราม ปี2567
จับสินค้าผิดกฎหมายได้ 33,359 คดี สูงขึ้นกว่าปีก่อน 28.11%
กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตเผยผลการปราบปรามสินค้าสรรพสามิต ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ต.ค. 2566 – 30 ก.ย. 2567) รวมทั้งสิ้น 33,359 คดีสูงขึ้นกว่าปีก่อน 28.11% คิดเป็นเงินค่าปรับ 690.75 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 2,465.86 ล้านบาท
3. น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 1,465 คดี ค่าปรับ 76.86 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 11.41 ล้านบาท จำนวนของกลาง 2.56 ล้านลิตร
4. รถจักรยานยนต์ จำนวน 1,109 คดี ค่าปรับ 29.75 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 6.34 ล้านบาท จำนวน ของกลาง 1,493 คัน
5. ไพ่ จำนวน 575 คดี ค่าปรับ 7.07 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 10.14 ล้านบาท จำนวนของกลาง 79,561 สำรับ
6. รถยนต์ จำนวน 268 คดี ค่าปรับ 27.89 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 34.16 ล้านบาท จำนวนของกลาง 269 คัน
7. เครื่องหอมและเครื่องสำอาง จำนวน 226 คดี ค่าปรับ 13.40 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 20.32 ล้านบาท จำนวนของกลาง 244,723 ขวด
8. เครื่องดื่ม จำนวน 216 คดี ค่าปรับ 5.84 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 3.84 แสนบาท จำนวนของกลาง 108,259.31 ลิตร
9. แบตเตอรี่ จำนวน 210 คดี ค่าปรับ 13.78 ล้านบาท จำนวนของกลาง 89,059 ก้อน
10. สินค้าอื่น ๆ จำนวน 146คดี ค่าปรับ 3.69 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 83,240 บาท
กรมสรรพสามิตได้ยกระดับการทำงานเชิงรุกในด้านการปราบปรามและสืบค้นในทุกช่องทาง อีกทั้งยังมีการนำ เทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อสืบค้นการกระทำผิดในช่องทางออนไลน์ ผ่านศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ของกรมสรรพสามิต นอกจากนี้ ยังได้มีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก อาทิ กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการขนส่ง ทางบก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไปรษณีย์ไทย แฟลช เอ็กซ์เพรส ศรชล. กองทัพเรือ กองทัพบก เป็นต้น เพื่อปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 จากการดำเนินการเชิงรุกทั้ง ด้วยกำลังคนและออนไลน์ รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภายนอก ส่งผลให้กรมสรรพสามิตสามารถจับกุม ผู้กระทำผิดพร้อมของกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ดร. เผ่าภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สินค้าที่มิได้เสียภาษีสรรพสามิตส่งผลเสียต่อ ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม การปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้ เสียภาษี จึงเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งของกรมสรรพสามิต ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชนในการบริโภคสินค้าที่ได้ มาตรฐาน และยังเป็นการสร้างความชอบธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต