ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐปราบปรามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด เนื่องจากเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง และเป็นต้นเหตุของการเกิดอาชญากรรมในสังคม อันจะส่งผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.

ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัด กวดขัน สืบสวน ปราบปรามจับกุม ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกข้อหา มุ่งเน้นข้อหาความผิดร้ายแรง ได้แก่ การครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้า จำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก สมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือแก่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด

กองบัญชาการตำรวจนครบาล

กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 โดย พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง
สถานีตำรวจนครบาลเพชรเกษม ประกอบด้วย พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.กมลเลศ พูลสุโข รอง ผกก.ป.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.สุพัฒน์ พลหนองหลวง สวป.สน.เพชรเกษม พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม และฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว
1. นายชัยณรงค์ หรือแสบ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหา
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่น บรรจุอยู่ในพลาสติกสีเขียว (ถุงชา) จำนวน 18 ถุง น้ำหนักถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมทั้งสิ้น จำนวน 18 กิโลกรัม
2.วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีนหรือยาเค) บรรจุอยู่ในถุงใสแบบซองยา จำนวน 1 ถุงน้ำหนักเฉพาะตัวยาประมาณ 1.8 กรัม
3 โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 2 เครื่อง
4..รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นเอ็กซ์เพนเดอร์ สีขาว คันหมายเลขทะเบียน 1 ขว 6573 กรุงเทพมหานคร
5.ป้ายทะเบียนรถ 4 ป้าย
6.ถุงพลาสติกส่งไปรษณีย์จำนวนหลายใบ
พฤติการณ์ในการจับกุม
กล่าวคือก่อนทำการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจผู้ร่วมจับกุมได้ออกตรวจพื้นที่ภายในเขตรับผิดชอบ ตรวจผ่านมาบริเวณซอยกาญจนาภิเษก 10 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร         ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดอาชญากรรม และมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด เมื่อได้ตรวจมาถึงบริเวณสะพานข้ามคลองที่ 2 ภายในซอยดังกล่าวได้พบเห็นรถยนต์ยี่ห้อ mitsubishi xpander สีขาว ทะเบียน 1 ขว 6573 กรุงเทพมหานคร (ของกลางลำดับที่ 6) จอดหันท้ายเข้ากับรถยนต์ยี่ห้อ CRV สีเทา (คันที่หลบหนี) เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงอาการพิรุธ พยายามจะขับหลบหนีมีลักษณะอาการพิรุธต้องสงสัย จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจค้น โดยขณะตรวจค้นมีไฟส่องสว่างสาธารณะและไฟฉายของเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถมองเห็ได้อย่างชัดเจน จากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวมีนายชัยณรงค์ หรือแสบ (ทราบชื่อภายหลัง)เป็นผู้ขับขี่ ได้แสดงอาการพิรุธต้องสงสัย จึงได้ขอตรวจค้นตัวนายชัยณรงค์ฯ โดยก่อนตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ภายในกายให้ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว ผลการตรวจค้นพบคีตามีนหรือยาเค (ของกลางลำดับที่ 1) ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงข้างขวาของนายชัยณรงค์ฯ สอบถามรับว่าเป็นของตนเองจริงมีไว้เพื่อเสพ นอกจากนี้ได้ตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าวปรากฏว่าทะเบียนรถที่ติดอยู่นั้นไม่ตรงกับที่จดทะเบียนไว้ และจากการตรวจสอบภายในรถยังพบแผ่นป้ายทะเบียนรถอีกจำนวน 2 ชุด (4 แผ่นป้าย) อยู่ภายในรถคันดังกล่าว สอบถามเบื้องต้นนายชัยณรงค์ฯ รับว่าได้นำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังพบภาพถ่ายยาเสพติดในโทรศัพท์ของนายชัยณรงค์ จึงได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในบ้านเช่าแถวคลองทวีวัฒน์ จึงได้เดินทางไปยังบ้านดังกล่าว

พร้อมทั้งได้ตรวจยึดยาไอซ์ จำนวน 18 ถุง หนักถุงละ 1 กิโลกรัม รวม 18 กิโลกรัม (ตรงกับภาพถ่ายในโทรศัพท์ของผู้ต้องหา) พร้อมด้วยถุงพสาสติกเพื่อใช้หีบห่อ และกล่องพลาสติกที่ใช้ขนยาเสพติด จึงได้ยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง สอบถามนายชัยณรงค์ฯ รับว่า ตนเองมีหน้าที่ไปรับและส่งยาเสพติดตามคำสั่งของลูกพี่ และจะได้ค่าจ้างเป็นเฉลี่ยแล้วประมาณเดือนละ 200,000 บาท จึงได้ยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
##ขอบคุณภาพข่าว/Dit News /รายงาน##