พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2565 มิจฉาชีพใช้บัญชีม้าในการปล้นทรัพยากรคนไทยไปมากกว่า 100,000 ล้านบาท โดยใช้ infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ของประเทศไทย และไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการโยกย้ายเงินไปสู่
คริปโตเคอเรนซี นำเงินออกนอกประเทศไปให้กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นองค์กรอาชญากรรมที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งข้อมูลจากการประชุมเปิดเผยว่ามีคนเปิดบัญชีม้ากว่า 2 แสนราย ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในวัยทำงาน โดยมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่ขาดแคลนแรงงานถึง 2 แสนคน ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีแนวโน้มที่อาจจะถูกออกหมายจับ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ภาคธนาคารต้องจัดการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ระบบเศรษฐกิจของชาติได้รับผลกระทบหนักกว่านี้
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการเปิดยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” ที่จะปิดกั้นทุกช่องทางที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการหลอกลวงประชาชน โดยตัดช่องทางการใช้บัญชีม้าในการกระทำความผิด โดยในการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นตามนโยบาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะไม่ยอมให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกลวงประชาชนได้อีกต่อไป การปิดบัญชีม้าเป็นการกระทำที่มีเป้าหมายชัดเจน และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ด้าน น.ส.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนร่วมกับ ศปอส.ตร. ในการกำหนดนโยบายและการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้คนร้ายใช้ช่องทางบัญชีธนาคารหลอกลวงคนไทยให้ตกเป็นเหยื่อจากกลุ่มแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติอีกต่อไป