เมื่อวันที่ 24 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2567 ภายใต้การอำนวยการโดย พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม
ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.ฯ จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่ (ป.) ฯ จ.ส.ต.ธวัชชัย ละอองชัย ผบ.หมู่(สส.) จ.ส.ต.สมภพ เที่ยงธรรมผบ.หมู่ (ป.) ฯ ส.ต.อ.ประทานพร เชษขุนทด ผบ.หมู่ (ป.) ฯ ส.ต.อ.ณัฐพงศ์ พรหมสุข ผบ.หมู่(สส.)
จับกุม นาย จักรพันธ์ แขเงิน อายุ 28 ปี
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง ” ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 842/2567 ลงวันที่ 19 กันยายน 2567
จับกุมได้ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1 ซอย เพชรเกษม 77 แยก 1-2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันนี้ (24 ต.ค.67) เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนามแต่ประสงค์เงินรางวัลนำจับว่า นาย จักรพันธ์ แขพวง เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 842/2567 ลงวันที่ 19 กันยายน 2567 ข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1 ซอย เพชรเกษม 77 แยก 1-2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปที่สถานที่ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับ นาย จักรพันธ์ แขพวง ยืนอยู่ จึงได้แสดงตัว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและได้แสดงหมายจับ ต่อหน้า นาย จักรพันธ์ แขพวง สอบถามชื่อและนามสกุลจริงและขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนกับ นาย จักรพันธ์ แขพวง ในขณะนั้น ปรากฎว่ามีชื่อและนามสกุลตรงตามหมายจับนี้ จนเป็นที่ทราบและส่งหมายจับให้ตรวจสอบอ่านเองจนเข้าใจดีแล้ว ได้ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าวและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับดังกล่าวมาก่อนแต่ อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งต่อนาย จักรพันธ์ แขพวง ว่าจะต้องถูกจับ ได้แจ้งข้อกล่าวหา หมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 842/2567 ลงวันที่ 19 กันยายน 2567 ข้อหา ดังกล่าวข้างต้น นาย จักรพันธ์ แขพวง ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กล่าวคือ นาย จักรพันธ์ ฯ เป็นพนักงานของ บริษัท ฯ มีหน้าที่ขนส่งและเก็บเงินส่งคืนสำนักงานคลัง ต่อมา วันที่ 30 กันยายน 2566 นาย จักรพันธ์ ฯได้นำพัสดุทีมียอดเก็บเงินปลายทางออกจากคลัง แต่ นาย จักรพันธ์ ฯ ไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้า บริษัท ฯ เมื่อสอบถาม นาย จักรพันธ์ ฯ ได้ตอบว่าได้นำเงินไปใช้ส่วนตัวและไม่มีเงินนำส่งคืนให้กับ บริษัท ฯ เป็น เหตุให้ บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย จึงมาพบ พงส.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป