เมื่อวันที่ 3 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2567 ภายใต้การอำนวยการโดย พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม
ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม, จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่ (ป.) สน.เพชรเกษม, จ.ส.ต.ธวัชชัย ละอองชัย ผบ.หมู่ (สส.)ฯ,จ.ส.ต.สมภพ เที่ยงธรรม ผบ.หมู่ (ป.) ฯ, ส.ต.อ.ณัฐพงศ์ พรหมสุข ผบ.หมู่ (สส.)ฯ และ ส.ต.อ.ประทานพร เชษขุนทด ผบ.หมู่ (ป.) ฯ

จับกุม นางสาวรัตนาวดี จันทร อายุ 20 ปี
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นอันเป็นเท็จต่อประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 880/2567 ลงวันที่ 30 กันยายน 2567

จับกุมได้ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 328 ซอยหุ่นสวัสดิ์ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร

เมื่อวันที่ ( 3 ต.ค.67 ) เวลาประมาณ 12.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนามแต่ประสงค์เงินรางวัลนำจับว่า นางสาวรัตนาวดี จันทร เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 880/2567 ลงวันที่ 30 กันยายน 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นอันเป็นเท็จต่อประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ประชาชน” อยู่บริเวณหน้าบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 328 ซอยหุ่นสวัสดิ์ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานครเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปที่สถานที่ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับ นางสาวรัตนาวดี จันทร ยืนอยู่บริเวณ อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 328 ซอยหุ่นสวัสดิ์ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร         จึงได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่าย สืบสวนและได้แสดงหมายจับ ดังกล่าวต่อหน้า นางสาวรัตนาวดี จันทร สอบถามชื่อและ นามสกุลจริงและขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนกับ นางสาวรัตนาวดี จันทร ในขณะนั้น       ปรากฎว่ามีชื่อและนามสกุลตรงตามหมายจับนี้ จนเป็นที่ทราบและส่งหมายจับให้ตรวจสอบอ่านเองจนเข้าใจดีแล้ว ได้ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าวและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับดังกล่าวมาก่อนแต่ อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งต่อนางสาวรัตนาวดี จันทร ว่าจะต้องถูกจับ ได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 880/2567 ลงวันที่ 30 กันยายน 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นอันเป็นเท็จต่อประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” นางสาวรัตนาวดี จันทร ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้นำตัวส่งศาลแขวงบางบอน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

พฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้เสียหาย ได้เข้าใช้แอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก และได้ค้นหา ซิมรายปี และพบเพจ ซื่อสัตย์ Mobile -จำหน่ายซิมเทพรายปี ซึ่งเป็นเพจสาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ผู้กล่าวหาส่งข้อความผ่านเมสเซนเจอร์ เฟซบุ๊ก เพื่อสอบถามรายละเอียดของซิมรวมทั้งราคา ก่อนดำเนินการโอนเงิน ผู้เสียหาย ได้สอบถามเพจดังกล่าวว่า มีหน้าร้านหรือไม่ อย่างไร เพจดังกล่าวแจ้งว่ามีหน้าร้านและส่งสินค้าจริง สามารถรับสินค้าได้ภายใน ๑-๒ วัน พร้อมส่งแผนที่ร้านว่า ร้านตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย ๑ ผู้เสียหายทำการโอนเงิน ไปยัง ธนาคารยูโอบี ชื่อบัญชี นางสาวรัตนาวดี จันทร ต่อมา ผู้เสียหายสนใจสั่งซื้อซิมเพิ่ม จึงส่งข้อความไปยังเพจดังกล่าว แจ้งว่า ขอซื้อซิมเพิ่ม และพูดคุยรายละเอียดวันเดียวกัน เวลา ๑๖.๐๗ น. ผู้เสียหาย ทำการโอนเงิน ไปยัง ธนาคารยูโอบี ชื่อบัญชี นางสาวรัตนาวดี จันทร ต่อมา เพจดังกล่าว ได้ส่งข้อความผ่านเมสเซนเจอร์เฟซบุ๊ก หาผู้กล่าวหา แจ้งว่า เบื้องต้นต้องชำระค่าภาษี ก่อนทำการเปิดใช้งาน ในกรณีไม่ชำระค่าภาษี จะไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ผู้เสียหายจึงค้นหาการเสียภาษีซิมรายปีในเว็ปไซต์กูเกิ้ลและได้ส่งข้อความตอบกลับว่า ไม่มีการเสียภาษีดังกล่าว เพจดังกล่าวไม่ตอบกลับผู้กล่าวหาแต่อย่างใดจึงมาแจ้งความที่สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

##ขอบคุณภาพข่าว/Dit News /รายงาน##