เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางด้านการยกระดับและพัฒนามรดกภูมิปัญญาผ้า และหัตถกรรมไทย ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้งที่ 4 จัดโดย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ ขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น
โดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายสามารถ สุวรรณมณี รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ พร้อมผู้แทนจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถหกรรมพร้อมด้วยนิสิต นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กว่า 200 คน
การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในวันนี้ ได้รับเกียรติจากคณะวิทยากรคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ได้แก่ ดร.ศรินดา จามรมาน ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คุณธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คุณศิริชัย ทหรานนท์ นักออกแบบและผู้ก่อตั้งแบรนด์ THEATER
นายภูภวิศ กฤตพลนารา ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์แบรนด์ Issue นายธนาวุฒิ ธนสารวิมล ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ TANDT อาจารย์ ดร.กิติศักดิ์ เยาวนานนท์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนากายภาพ วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อาจารย์ ดร.ฐิศิรักน์ โปตะวณิช อาจารย์ประจำสาขาวิชาการออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์และมัลติมีเดีย วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระวิริยอุตสาหะและพระวิสัยทัศน์กว้างไกล ทรงสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการรักษา ฟื้นฟู
และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะมรดกภูมิปัญญาด้านผ้าและหัตถศิลป์ให้อยู่คู่สังคมไทยและพร้อมก้าวสู่สากลซึ่งหนึ่งในแนวพระดำริสำคัญ คือ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และการปรับใช้ผ้าไทย ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตร่วมสมัย สร้างมูลค่าให้กับผืนผ้า สร้างความสุขในการแต่งกาย และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสผ้าไทยในมิติที่ใกล้ชิดและจับต้องได้มากขึ้น
นอกจากนี้ พระองค์ยังได้พระราชทานลายผ้า และผลงานด้านสิ่งทอที่ทรงออกแบบด้วยพระองค์เองหลายลาย อาทิ ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา ผ้าลายดอกรักราชกัญญา และผ้าลายอื่น ๆ
อีกมากมาย ทรงพระราชทานแนวทางการขับเคลื่อนงานศิลปะและหัตถกรรมที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะในแต่ละพื้นที่ ให้เข้าสู่กระบวนการทางวิชาการ ให้มีการศึกษาเรียนรู้ ส่งเสริมพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานด้านผ้าและหัตถกรรม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มากไปกว่านั้นพระองค์ยังทรงมีพระกรุณาธิคุณ เป็นบรรณาธิการบริหารหนังสือ “Thai Textiles Trend Book”
โดยล่าสุด ได้จัดทำเป็นเล่มที่ 6 เพื่อเป็นการเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน รวมถึงโปรดให้คณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผ้า ด้านแฟชั่นดีไซน์ ด้านการใช้สีธรรมชาติ ออกแบบตัดเย็บ ได้ลงไปให้ความรู้กับช่างทอผ้าและผู้ประกอบการอันเป็นการช่วยสร้างเครื่องมือ เสริมความรู้ ต่อยอดสู่การสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้จากสรรค์สร้างผ้าไทยให้แก่ชุมชนและผู้ที่สนใจในทุกภูมิภาคของประเทศ
“กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำสมุดภาพประวัติศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 39 พรรษา “สิริวัณณวรีนารีรัตนราชพัสตราภรณ์ : แรงบันดาลใจแห่งการสร้างสรรค์ผืนผ้าและหัตถศิลป์ไทยร่วมสมัย” เพื่อเผยแพร่พระวิสัยทัศน์ พระกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน ด้านการออกแบบสิ่งทอและแฟชั่น ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานหัตถกรรมไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับสากล
ทั้งในมิติของการสืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย และการสร้างพลังชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยพระกรณียกิจทั้งปวงนี้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตานานาประเทศทั่วโลก องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) จึงได้ประกาศเชิดชูพระเกียรติและทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดีพระกรณียกิจด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม การส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568″
กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้นับเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนรู้และสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทย ถือเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ พร้อมทั้งส่งเสริมให้สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดสร้างสรรค์งานออกแบบที่ผสมผสานเอกลักษณ์ไทยเข้ากับแฟชั่นร่วมสมัย ซึ่งไม่เพียงช่วยธำรงรักษาอัตลักษณ์ของชาติ แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจให้วัฒนธรรมไทยคงอยู่คู่แผ่นดินสืบไป
ด้านผู้ว่าฯ ขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และศูนย์กลางภูมิปัญญาด้านผ้าไทยที่สำคัญทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าไหมและผ้าทอมือของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงวิถีชีวิตของชาวอีสานที่สามารถสร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้แก่ชุมชนในภูมิภาค ถ่ายทอดวัฒนธรรม ภูมิปัญญาผ่านเส้นใยไหมจนเป็นผืนผ้าชิ้นงาม ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยสู่เวทีโลกอย่างสง่างาม
##กองสารนิเทศ สป.มท./Dit News/รายงาน##

