วันที่ 18 เดือน กันยายน พ.ศ.2567 เวลาประมาณ 13.05 น.ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงศ์ สว.สส.ฯจ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง จ.ส.ต.ธวัชชัย ละอองชัย ผบ.หมู่ (สส.)ฯ จ.ส.ต.สมภพ เที่ยงธรรม ส.ต.อ.ประทานพร เชษขุนทด ผบ.หมู่ (ป.), และ ส.ต.อ.ณัฐพงศ์ พรหมสุข ผบ.หมู่ (สส.)

สถานที่จับกุม
บ้านพักไม่มีบ้านเลขที่ เขตพื้นที่บ้านนาบอนหมู่ที่ 8 ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย
นายชิษนุพงศ์ พู่สกุล อายุ 35 ปี
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาฐาน ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 793/2567 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่นร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม,และเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด ”

พฤติการณ์เกี่ยวกับคดี กล่าวคือ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ได้มีโทรศัพท์ ติดต่อมาหา ผู้เสียหายเพื่อแจ้ง เป็นพนักงานธนาคารกรุงไทย โดยบอกว่า ชื่อของข้าฯ ถูกแอบไปใช้สมัครบัตรเครดิตมียอดค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 บาท และยอดค้างอีกประมาณ 89,000 บาท และสอบถามว่าผู้เสียหายเป็นผู้ใช้บัตรหรือไม่และมีบัตรเครดิตด้วยหรือไม่และแจ้งว่าเหตุเกิดขึ้นท้องที่นครสวรรค์จะทำการโอนสายไปยังอีกส่วนงาน แต่ปรากฏว่า สายโทรศัพท์ได้ตัดไปแทน และมีเบอร์ ติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ ข้าฯ แทน ปลายสายแจ้ง ข้าฯ ติดต่อต่อมาจากสภ.นครสวรรค์ จะต้องมีการบันทึกสนทนา ให้ ผู้เสียหาย แลกไลน์ไป เพื่อสนทนาเป็นข้อความแทนก่อนจะทำการสนทนา ได้มีการโทรผ่านวีดีโอคอล แอพพลิเคชั่น ไลน์ เพื่อแสดงว่า บุคคลที่ติดต่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงที่ทำให้ผู้เสียหาย เชื่อว่าเป็นตำรวจริง และหลังจากนั้นก็พูดคุยกันผ่านโทรโสน์ โดยแจ้งว่า ผู้เสียายพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน และมีการสอบถามเกี่ยวกับ บัญชีธนาคาร ผู้เสียหาย โดยประสงค์ ให้ ผู้เสียหายโอนเงินไปให้เพื่อทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ขณะโอนให้ ผู้เสียหาย ถือสายโทรศัพท์ไลน์ไว้หากตรวจสอบแล้ว ปกติ จะโอนคืนมาให้ผู้เสียหาย ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย เกือบหมดบัญชี รวมประมาณเกือบ สี่แสนบาท หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับปลายสายได้ จึงรู้ว่าถูกหลอกและเดินทางมาแจ้งความที่สน.เพชรเกษม
ต่อมา เมื่อวันนี้ ( 18 ก.ย.67 ) เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนามแต่ประสงค์เงินรางวัลนำจับว่า นายชิษนุพงศ์ พู่สกุล อายุ 35 ปี เป็นผู้ต้องหามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 793/2567 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปที่สถานที่ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับ นายชิษนุพงศ์ ฯ จึงได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและได้แสดงหมายจับดังกล่าวต่อหน้า นายชิษนุพงศ์ ฯ ได้ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าวและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับดังกล่าวมาก่อนแต่ อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งต่อนายชิษนุพงศ์ ฯ ว่าจะต้องถูกจับ ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายชิษนุพงศ์ ฯทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้นำตัวส่งสน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

##ขอบคุณภาพข่าว/Dit News /รายงาน##