((POLICE NEWS update PLUS))…”สตม. จับกุมนายจ้างโหดบังคับใช้แรงงาน ทำทารุณทำร้ายเหยื่อเด็กหญิงชาวลาว หนีเสือปะจระเข้เจอชายแก่หลอกให้ความช่วยเหลือกลับถูกข่มขืน”


​ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี การล่วงละเมิดเด็กและเยาวชน เร่งกวดขันปราบปรามกลุ่มขบวนการที่ลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดย ผิดกฎหมาย และขบวนการหรือบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการอย่างจริงจังในการป้องกันปราบปราม และดำเนินคดีบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างจริงจัง​
​สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม.(ปป), พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม 3, พ.ต.อ.ภาส สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3 และ พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหาคดี ค้ามนุษย์ และข่มขืนเด็ก ดังนี้

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 62 มีพลเมืองดีพาตัว ด.ญ. เอ(นามสมมุติ) อายุประมาณ 14 ปี เศษ สัญชาติลาว มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สมุทรปราการ แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับบ้าน ไม่มีเอกสารติดตัวมาด้วย ตม. ได้สังเกตตามร่างกายและใบหน้ามีร่องรอยการถูกทำร้ายจำนวนหลายบาดแผล จึงได้สอบถามจนทราบว่าถูกนายจ้างทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ จึงได้ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ทำการสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ทราบว่าผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2560 เพื่อมาทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านคอยเลี้ยงแมว และสุนัขในบ้านที่เกิดเหตุ ตกลงค่าแรงเดือนละ 3,000 บาท โดยค่าจ้างเดือนแรกหักเป็นค่าเดินทาง ค่าจ้างเดือนต่อไปจะโอนเข้าบัญชีพ่อผู้เสียหาย และให้นอนในห้องร่วมกับสุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้ ระหว่างที่ทำงานในบ้านที่เกิดเหตุ ได้ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย โดยใช้กรรไกรตัดกระดาษ, กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้ เป็นอาวุธ ทิ่มตามแขน ขา หลัง หน้าอก มีบาดแผล ใช้ของแข็งคล้ายสากกะเบือตีที่บริเวณหน้า ปาก ใช้ไม้แขวนเสื้อยัดเข้าไปในปากแล้วดึงออก ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่ไม่เคยได้รับการรักษา ปล่อยให้แผลหายเองตามธรรมชาติ มีบางครั้งได้ทานยาแก้ปวดบ้าง ระหว่างพักอาศัยที่บ้านเกิดเหตุ นายจ้างได้บอกว่าห้ามออกไปนอกรั้วบ้าน หากออกไปจะถูกตำรวจจับ หรือมีคนพาไปโกนหัว ทำให้เด็กเกิดความกลัว ไม่กล้าออกไปไหน หากมีเจ้าหน้าที่มาตรวจต้องคอยหลบซ่อน ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่เห็น เมื่อเจ้าหน้าที่กลับไปแล้วนายจ้างจึงไปตามกลับมา ปกตินายจ้างจะอยู่บ้านตลอดเวลา ไม่ออกไปไหน ต่อมาเมื่อประมาณช่วงต้นปี 2562 เด็กเห็นโอกาสที่นายจ้างไม่อยู่จึงรีบหลบหนีออกมาจากบ้าน ไปเร่ร่อนอยู่ข้างทาง สักระยะได้มี นายหลง (นามสมมุติ) พาไปอยู่ด้วย ได้ใช้โอกาสบังคับขืนใจข่มขืนกระทำชำเราโดยเด็กไม่ยินยอม จนชาวบ้านแถวนั้นเห็น ทนไม่ได้ จึงได้พาตัวเด็กมาพบ ตม.จว.สมุทรปราการ เพื่อให้การช่วยเหลือ และพาไปร้องทุกข์กับ พงส.กก.สส.บก.ตม.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 62 พงส.กก.สส.บก.ตม.3 ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ จับกุม นายหลง (นามสมมุติ) ในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราฯ และ ให้การช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุมฯ” และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในวันที่ 9 ส.ค. 62
ต่อมาวันที่ 14 ส.ค. 62 พงส.กก.สส.บก.ตม.3 ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ จับกุม นายจ้าง ในความผิดฐาน “ค้ามนุษย์ฯ และทำร้ายร่างกายสาหัส หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว” ศาลอนุมัติตามขอ และในวันที่ 16 ส.ค. 62 ได้ขอหมายค้นบ้านที่เกิดเหตุ และทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ พร้อมตรวจสถานที่เกิดเหตุ โดยมี พฐ. เก็บพยานหลักฐานอาวุธที่ใช้กระทำผิด เพื่อส่งตรวจพิสูจน์ต่อไป สำหรับเด็กได้รับการคุ้มครองตามกระบวนการของกฎหมายในฐานะผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. ได้ใส่ใจคนต่างด่าวที่เข้ามาพักอาศัยในราชอาณาจักรไทยทุกคน หากพบว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกนายจ้างทำร้ายสามารถแจ้งเบาะแสมาที่ ตม.จว. ได้ทุกแห่ง และฝากเตือนถึงนายจ้าง หากท่านรับคนต่างด้าวเข้ามาทำงาน ท่านต้องปฏิบัติต่อคนต่างด้าว ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม หากนายจ้างทำให้ลูกจ้างกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน หรือขู่เข็ญด้วยประการใดๆ หรือใช้กำลังประทุษร้าย หรือยึดเอกสารสำคัญประจำตัว หรือนำภาระหนี้มาผูกมัด จะผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการบังคับใช้แรงงาน ซึ่งมีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *