((POLICE NEWS update PLUS))…”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำทีมแถลงความคืบหน้าคดีตำรวจลักปืนหลวง หลังปฏิบัติการเข้าค้น 34 จุด ได้ปืนคืนกว่า 64 กระบอก

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ต.ค.65 ที่ผ่านมา สภ.ปากเกร็ด ภ.จว.นนทบุรี ได้ตรวจสอบอาวุธปืนในคลังและพบว่า มีอาวุธปืนของทางราชการ หายไปจากในคลังจำนวนมากถึง 160 กระบอก ซึ่งต่อมาสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้คือ ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่ (ป) สภ.ปากเกร็ด ซึ่งมีหน้าที่ดูแลคลังอาวุธปืนดังกล่าว แต่ได้แอบทยอยลักเอาปืนหลวงออกไปจำหน่ายและจำนำเป็นจำนวนมาก โดย ด.ต.เชาวลิต ถูกดำเนินคดีในข้อหา ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย และ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม รายละเอียดตามที่สื่อมวลชนและโซเชี่ยลมีเดียนำเสนอแล้วนั้นจากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เร่งขยายผลติดตามอาวุธปืนที่ถูกลักออกไปจำหน่ายทั้งหมดกลับคืนมา รวมทั้งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับซื้ออาวุธปืนหลวงที่ถูกลักไปดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เร่งดำเนินการสืบสวนติดตามอาวุธปืนทั้งหมดที่ถูกลักออกไป ซึ่งประกอบด้วย 1) อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Sig Sauer รุ่u P320 SP จำนวน 23 กระบอก
2) อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ GLOCK จำนวน 20 กระบอก
3) อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ GLOCK รุ่น MS จำนวน 4 กระบอก
4) อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ Smith and Wesson จำนวน 42 กระบอก
5) อาวุธปืนยาว COLT M4 จำนวน 25 กระบอก
6) อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Sig Sauer รุ่น M18E (Carry) จำนวน 46 กระบอกจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า อาวุธปืนดังกล่าวถูกนำไปขายและจำนำกับบุคคลหลายกลุ่ม ซึ่งได้มีการผลัดเปลี่ยนมือกันแล้วหลายทอด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและสามารถออกหมายจับ กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้แล้วจำนวน 13 ราย

วันนี้ (10 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.1 ได้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อติดตามหาอาวุธปืนที่ถูกลักไป และติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 34 จุด ใน 3 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี 29 จุด กรุงเทพฯ 4 จุด และปทุมธานี 1 จุด ผลการปฏิบัติสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย1. นายธีระวัฒน์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.6 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
2. นายกิตกร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.6 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
3. น.ส.รุ่งรัตน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/33 ม.3 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
4. น.ส.วรรณพร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 493 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 85 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานครโดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน รับของโจร

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามอาวุธปืนราชการกลับมาได้แล้วจำนวน 64 กระบอก ดังนี้
1. อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Sig Sauer จำนวน 20 กระบอก
2. อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ GLOCK จำนวน 7 กระบอก
3. อาวุธปีนพกสั้นลูกโม่ ขนาด 38 ยี่ห้อ Smith and Wesson จำนวน 30 กระบอก 4. อาวุธปีนยาว COLT M4 จำนวน 7 กระบอก
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว แม้ในส่วนของคดีหลักจะสามารถจับกุมดำเนินคดีกับตัวผู้ก่อเหตุลักอาวุธปืนราชการได้แล้ว แต่ในส่วนของอาวุธปืนที่ถูกลักออกไปนั้น จำเป็นจะต้องมีการติดตามกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่ง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งรัดในการติดตามอาวุธปืน และดำเนินคดีกับผู้ที่รับซื้ออาวุธปืนที่ถูกลักไปทั้งหมด ในเวลานี้สามารถติดตามปืนกลับมาได้แล้ว 64 กระบอก และจับกุมผู้รับซื้อหรือช่วยซุกซ่อนอาวุธปืนดังกล่าวได้แล้วจำนวน 4 ราย ในส่วนของอาวุธปืนที่เหลือนั้น เจ้าหน้าที่ได้เร่งรัดการติดตามอาวุธปืนดังกล่าวกลับมา และอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก ซึ่งหากพบว่ามีผู้รับซื้อหรือช่วยซุกซ่อนอาวุธปืนราชการทีถูกลักไปอีกนั้น จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน ##ขอบคุณภาพ/ข่าว##

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *